*-*

ข่าวสาร

บอก WEB นี้ให้เพื่อน :

วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2551

การหาดาวน์โหลด ซอฟต์แวร์ ต่าง ๆ จากอินเตอร์เน็ตมาใช้งานแบบง่าย ๆ

ก่อนอื่น ใครที่อ่านบทความในหน้านี้ ต้องขอเตือนก่อนนะครับว่า คุณกำลังจะเริ่มต้นการทำผิดกฏหมายเข้าให้แล้ว เพราะว่าผมกำลังจะแนะนำ วิธีการหา ซอฟต์แวร์ ต่าง ๆ จากอินเตอร์เน็ตมาใช้งาน ทั้งแบบที่เป็นเวอร์ชั่นเต็ม และแบบที่ต้องใช้ crack หรือ keygen นะครับ เอาเป็นว่า ถ้าหากคุณยังใช้ Windows เวอร์ชันของพันธ์ทิพย์อยู่ละก็ ลองมาดูวิธีการหา ซอฟต์แวร์ อย่างอื่น ๆ มาใช้งานเล่นดูบ้าง อย่างน้อย ๆ ก็ประดับความรู้ไว้ครับ แต่ถ้ามีโอกาสก็อยากจะให้ซื้อ ซอฟต์แวร์ ที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้อง มาใช้งานกันนะครับ


จะหาซอฟต์แวร์ต่าง ๆ จากที่ไหน



สิ่งแรกที่ต้องทราบคือ เว็บไซต์สำหรับทำการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์เหล่านี้มาใช้งาน ทางเลือกมีให้คุณ 2 ทางคือ หาซอฟต์แวร์ที่เป็นเวอร์ชันเต็มที่มีให้ดาวน์โหลดตามเว็บไซต์ประเภทนี้ (ดูจากลิ้งค์ในหน้าแรกของที่นี่ก็ได้) ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นตัวเต็มจริง ๆ ไม่ต้องทำอะไรอีก สามารถใช้งานได้ทันที และอีกทางเลือกหนึ่งคือ ให้ทำการดาวน์โหลด ซอฟต์แวร์ที่เป็นรุ่นทดลองใช้งาน จากเว็บไซต์ของเจ้าของซอฟต์แวร์นั้น ๆ มาก่อน ส่วนใหญ่จะเป็น shareware ซึ่งจะใช้วิธีการกำหนดระยะเวลาการใช้งานที่จำกัดไว้ หลังจากนั้นจึงทำการหา code สำหรับลงทะเบียนมาใส่ เพื่อให้เป็นเวอร์ชันเต็มจริง ๆ หรือหา crack เพื่อทำการแก้ไขให้ใช้งานได้ครับ โดยที่วิธีนี้ หากไม่ทราบเว็บไซต์สำหรับดาวน์โหลด ก็ให้ไปค้นหาได้ที่ http://www.download.com ครับ เริ่มต้นทำการค้นหาจากที่นั่น ส่วนใหญ่จะมีแน่นอน



Crack / Key Gen / Serial No.



มารู้จักกับสิ่งเหล่านี้กันก่อน ปกติแล้ว Software ที่มีให้ Download ตามเวปต่าง ๆ จะแบ่งออกได้เป็น Freeware, Shareware, Demo หรือ Full Version หรือเรียกง่าย ๆ ก็คือ ฟรี กับ เสียตังค์ นั่นเอง หาก Software ตัวไหนให้ใช้ฟรี เราก็สามารถใช้งานได้ทันที แต่สำหรับ Software บางตัวที่ต้องเสียเงิน ก็จะมีวิธีการจำกัดความสามารถต่าง ๆ แตกต่างกันออกไปครับ เช่น กำหนดระยะเวลาใช้งานไว้ หรือให้ใช้ได้แต่บาง function เท่านั้น จนกว่าจะมีการลงทะเบียนหรือนำ Register Code หรือ Serial No. ที่ได้จากการลงทะเบียนมาใส่ (ซึ่งคุณต้องเสียตังค์สำหรับ Code ที่ว่านี้ด้วย) ในที่นี้จะแนะนำการทำให้ Software เหล่านี้ใช้ได้เต็มหรือใช้ได้ตลอดไปโดยการ crack หรือหา Key Gen มาใช้


Crack คือโปรแกรมที่จะเข้าไปแก้ไข ในส่วนของการตั้งเวลาหมดอายุใช้งาน หรือทำให้ใช้งาน function ต่าง ๆ ได้ วิธีการ crack ส่วนใหญ่จะเหมือน ๆ กันคือให้ copy ไฟล์ crack ไปใส่ไว้ใน Folder เดียวกันกับที่เก็บโปรแกรม และเรียกใช้ จากนั้นก็ทำตามขั้นตอนครับ บางโปรแกรมก็อาจจะต้องเรียกใช้ไฟล์ crack แทนไฟล์เดิมของโปรแกรมนั้นแทน หรืออ่านรายละเอียดวิธีการใช้งานจากไฟล์ Readme.txt ที่มีมาให้ด้วย


Key Gen คือโปรแกรมสำหรับหา Register Code หรือ Serial No. ของ Software ต่าง ๆ โดยจะให้เราใส่ชื่อของ user name ที่จะ Register แล้วก็จะบอกเป็น Code มาให้สำหรับนำไปใส่ในช่อง Register Code เพื่อให้ Software ตัวนั้นเป็นแบบ Register Version รายละเอียดของการใช้ Key Gen ก็อาจจะต้องอ่านจากไฟล์ Readme.txt ที่มากับโปรแกรมนั้น ๆ ด้วย


สำหรับการค้นหา Crack หรือ Key Gen ของโปรแกรมต่าง ๆ สามารถค้นหาได้โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ที่รวมของ crack ต่าง ๆ ที่นิยมกันมากและมีค่อนข้างมากคือ http://astalavista.box.sk http://www.andr.net http://www.serials.ws และ http://www.cracks.am โดยเมื่อเข้าไปแล้ว ก็กรอกชื่อหรือคำที่ต้องการค้นหาได้เลย พยายามดูรุ่นหรือ version ให้ตรงกับที่ต้องการด้วย หรือในบางครั้ง อาจจะใช้แทนกันได้ อันนี้ต้องลองกันเองครับ


การใส่ register code ส่วนใหญ่ที่พบ จะมีอยู่ 2 แห่งคือ ต้องใส่ขณะที่เริ่มต้นขั้นตอนการติดตั้ง และบางครั้ง ต้องทำการติดตั้งให้เสร็จก่อน แล้วจึงเข้าไปในหน้าของ register code (ส่วนใหญ่จะอยู่ที่เมนู Help) ให้สังเกตุเวลาดูรุ่นของซอฟต์แวร์ในเมนู Help นะครับ มักจะเขียนบอกว่าเป็น Shareware Version หรือ Evaluation หรือ Register Version เป็นต้น


ทดลอง crack ของจริง กับการแก้โปรแกรม ให้ใช้งานได้ปกติ


มาดูตัวอย่างของการ crack หรือ keygen เพื่อทำการเปลี่ยนซอฟต์แวร์ ให้กลายเป็นรุ่นเต็มกัน โดยตัวอย่างที่จะแสดงให้ดูต่อไปนี้ จะแบ่งออกเป็น 2 อย่าง ขึ้นอยู่กับวิธีการของผู้เขียน crack ของโปรแกรมแต่ละตัว


ตัวอย่างการใช้ keygen สำหรับโปรแกรม Winzip


ตัวอย่างของการใช้งาน keygen เพื่อหา Register code มาใส่สำหรับทำการลงทะเบียบโปรแกรม ซึ่งลักษณะการใช้งานทั่วไปของโปรแกรม keygen แบบนี้คือ ให้ทำการเรียกไฟล์ที่ได้มา อาจจะเป็นชื่อไฟล์ทำนองว่า keygen.exe หรือ crack.exe หรืออาจจะเป็นชื่ออื่น ๆ ก็ได้ จากนั้น ใส่ชื่อที่เราต้องการลงไปในช่อง Name แล้วกดปุ่ม Generate ตัวโปรแกรมจะสร้าง serial no. ให้เรา เพื่อนำเอาไปใช้ใส่ในช่อง Register ของโปรแกรมต่าง ๆ ได้ มาดูการทำ keygen ของโปรแกรม Winzip กัน โดยหลังจากที่ได้ติดตั้งโปรแกรม Winzip ไปเรียบร้อยแล้ว จะหา code สำหรับนำมาใส่ Register code โดยเริ่มต้นจากการหาดาวน์โหลดตัว crack ของโปรแกรมมาก่อน โดยที่จะยกตัวอย่างต่อไปนี้ เป็นลักษณะของ keygen ชื่อ sb_winzip8.exe

ทำความเข้าใจกับฮาร์ดดิสก์ในเบื้องต้นก่อน

ก่อนการใช้งาน Norton Ghost อยากจะให้ทำความเข้าใจ ระบบการเก็บข้อมูลและการแบ่งพาร์ติชันของฮาร์ดดิสก์ กันก่อน เพราะตรงนี้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ หากเราไม่เข้าใจและทำโดยใส่ไดร์ฟหรือพาร์ติชันผิด ข้อมูลต่าง ๆ อาจจะหายไปทั้งหมดเลยก็ได้ ดังนั้น ขอให้พยายามศึกษาคำว่า Drive และ Partition ให้เข้าใจจริง ๆ ก่อน


Drive ในที่นี้หมายถึง ตัวฮาร์ดดิสก์ คือ ในคอมพิวเตอร์ 1 เครื่องสามารถที่จะทำการติดตั้ง ไดร์ฟต่าง ๆ ได้หลาย ๆ ตัวเช่น Drive A: คือฟลอปปี้ดิสก์ Drive C: คือฮาร์ดดิสก์ตัวแรก ส่วน Drive D: คือซีดีรอม เป็นต้น สำหรับกรณีของฮาร์ดดิสก์ จะมีพิเศษกว่านั้น คือเราสามารถทำการแบ่งฮาร์ดดิสก์ 1 ตัวให้เป็นหลาย ๆ ไดร์ฟได้ เช่น ฮาร์ดดิสก์ 1 ตัวแต่ถูกแบ่งออกเป็น Drive C: และ Drive D: โดยที่ซีดีรอม ก็จะกำหนดให้เป็น Drive E: แทนเป็นต้น
Partition ก็คือการแบ่งพื้นที่ของฮาร์ดดิสก์ ออกเป็นหลาย ๆ ไดร์ฟ หรือเรียกว่าการแบ่งเป็นหลาย ๆ Partition นั่นเอง จากตัวอย่างข้างบน คือ เราสามารถที่จะแบ่งฮาร์ดดิสก์ 1 ตัวออกเป็นได้หลาย ๆ พาร์ติชัน หรือแบ่งออกเป็นหลาย ๆ ไดร์ฟนั่นเอง
ดูวิธีการจัดการกับพาร์ติชันได้ที่นี่


ทีนี้ ลองสำรวจเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานอยู่กันก่อน ว่ามีฮาร์ดดิสก์ติดตั้งอยู่กี่ตัว และมีการแบ่งการใช้งานหรือแบ่งพาร์ติชัน ต่าง ๆ ออกเป็นอย่างไรบ้าง อย่างเช่นฮาร์ดดิสก์ของเครื่องที่ผมใช้งาน มี 1 ตัวแต่แบ่งออกเป็น 2 พาร์ติชัน ดังนั้น ในระบบ Windows เครื่องผมก็จะมองเห็นว่ามีไดร์ฟ C: กับ D: เป็นฮาร์ดดิสก์ ส่วนซีดีรอม ก็จะเป็นไดร์ฟ E: แทน ที่ต้องให้ทำความเข้าใจกับเรื่อง Drive และ Partition ตรงนี้ก่อน ก็เพราะว่า ในการใช้งาน Norton Ghost จะต้องมีการอ้างถึงสองคำนี้ และเพื่อเป็นการป้องกัน การผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ จากการใส่หรือระบุ Drive หรือ Partition ผิดครับ

Norton Ghost โปรแกรมช่วย แบคอัพฮาร์ดดิสก์ เก็บไว้เผื่อยามฉุกเฉิน

Norton Ghost โปรแกรมช่วย แบคอัพฮาร์ดดิสก์ เก็บไว้เผื่อยามฉุกเฉิน

ครั้งหนึ่ง สมัยที่ผมเองหัดใช้งาน Windows ช่วงแรก ๆ ก็ซนพอสมควร มีการลองของคือ ทดลองลงโปรแกรมต่าง ๆ เดี๋ยวใส่ เดี๋ยวเอาออก ไม่นานเท่าไรนัก Windows ตัวเก่งก็เพี้ยนไปเลย ต้องมาลง Windows ใหม่อีก เรียกได้ว่าต้องลง Windows ใหม่ทุกสัปดาห์เลยก็ว่าได้ เป็นอย่างนี้อยู่ค่อนข้างนานพอสมควร ในสมัยนั้นผมเองก็คิดหาวิธีที่จะทำการ copy ตัวซอฟต์แวร์ต่าง ๆ เก็บไว้เป็นแบคอัพสำรองเอาไว้ เพื่อที่เวลามีปัญหา จะได้นำเอาไฟล์ที่ทำแบคอัพนั้นมาใช้งาน จนกระทั่งมาพบกับโปรแกรม Norton Ghost ที่มีความสามารถเก็บข้อมูลทั้งหมดใน พาร์ติชันของฮาร์ดดิสก์ ไว้ได้แบบที่เรียกว่า ทุกกระเบียดนิ้วเลยทีเดียว อีกทั้งตัวโปรแกรมก็ทำงานบน DOS ซึ่งเป็นการทำงานที่ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก และสามารถทำงานหลังจากที่ทำการ ฟอร์แม็ต ฮาร์ดดิสก์ ได้ทันที ใช้เวลาในการทำ แบคอัพ และนำกลับคืนไม่นานมากนัก ดังนั้น จึงขอแนะนำให้ท่านที่มีฮาร์ดดิสก์ ที่มีพื้นที่เหลือมากพอ หลังจากที่ทำการลง Windows ใหม่และติดตั้งซอฟต์แวร์ต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว ทำการเก็บแบคอัพข้อมูลและ Windows เก็บไว้ ครั้งต่อไป หากมีปัญหาที่ตัว Windows ก็จะได้ไม่ต้องมาทำการลงโปรแกรมใหม่ทั้งหมดครับ
ก่อนอื่น ต้องหาโปรแกรม Norton Ghost นี้มาใช้งานกันก่อน ลองดูจาก
http://www.symantec.com/ นะครับ หรือถ้าหาไม่ได้ ก็โหลดจาก ที่นี่ หรือ ที่นี่ ก็ได้ครับ โปรแกรมจะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก หลังจากดาวน์โหลดมาแล้วก็ให้ทำการ unzip และเขียนไฟล์ ใส่แผ่นดิสก์ไว้ก่อน จากนั้น จะบูตเครื่องจากแผ่นดิสก์ที่ได้นี้ หรือจะ copy เฉพาะไฟล์ ghost.exe เก็บไว้ใน โฟล์เดอร์ต่างหาก เพื่อที่จะใช้งานโดยตรงเลยก็ได้

ซอฟต์แวร์ในอนาคต

Neural Networksโครงข่ายใยประสาทเทียม เป็นการใช้คอมพิวเตอร์คำนวณโดยใช้วิธีเลียนแบบการทำงานของสมองมนุษย์ โปรแกรมคอมพิวเตอร์โดยทั่วไปนั้น ทำงานต่างจากสมองของมนุษย์ โดยขึ้นอยู่กับโปรแกรมที่สร้างมาเพื่อแก้ปัญหา โดยต้องนิยามลำดับขั้นตอนของการแก้ปัญหา (algorithm) ไว้ก่อน ซึ่งการทำงานตามโปรแกรมแบบนี้จะใช้หน่วยประมวลผลกลาง ซึ่งต้องมีการทำงานที่ยุ่งยากซับซ้อน และต้องมีส่วนของหน่วยความจำเพื่อเก็บข้อมูลต่าง ๆ ไว้ในตำแหน่งเฉพาะ แต่โครงข่ายใยประสาทเทียมนั้นกระจายการประมวลผลออกไปสู่โครงข่ายใยประสาท และประมวลผลแบบขนานคือทำไปพร้อม ๆ กันครั้งเดียว และเก็บสารสนเทศต่าง ๆ ไว้ในไซแนป
ที่ผ่านมานั้น การวิจัยด้านนี้ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควรเนื่องจากข้อจำกัดทางด้านฮาร์ดแวร์ แต่ปัจจุบัน สามารถสร้างคอมพิวเตอร์เฉพาะเพื่อทำงานด้านนี้ได้ ได้แก่ Neural Network Processor ทำให้สามารถปะมวลผลข้อมูลโครงข่ายใยประสาทเทียมที่ซับซ้อนได้เร็วมาก โดยใช้ความสามารถของระบบหลายหน่วยประมวลผล (multiprocessor) ในการทำงานแบบ Multiple Instruction Multiple Data (MIMD) แต่ละหน่วยประมวลผลของ โครงข่ายใยประสาทสามารถทำงานได้เทียบเท่าหน่วยประสาทเดี่ยว 8000 หน่วย โดยมีการเชื่อมต่อระหว่างหน่วยประสาทเดี่ยวภาายในหน่วยประมวลผลถึง 32,000 เส้น ความสามารถในการประมวลผลโดยการเชื่อมต่อประสาทเดี่ยวต่าง ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์สุดท้ายออกมา อยู่ที่ 140 ล้านการเชื่อมต่อ/วินาที ฉะนั้นหน่วยประมวลผลโครงข่ายใยประสาท 8 ตัว สามารถสร้างการเชื่อมต่อได้มากกว่าพันล้านครั้ง
Letizia The Computer Avatarโปรแกรมช่วยค้นหาข้อมูลอัตโนมัติ เลทิเซีย (Letizia) เป็นโปรแกรมแบบ agent ซึ่งมีความสามารถเป็นตัวแทนในการกระทำอัตโนมัติ เป็นตัวช่วยใขณะที่ผู้ใช้ท่องไปในเว็บ โดยติดตามพฤติกรรมการท่องเว็บของผู้ใช้จากโปรแกรมเว็บบราวเซอร์ แล้วพยายามคาดว่าผู้ใช้มีความสนใจด้านใดเป็นพิเศษ ตัวอย่างเช่น มีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตคนหนึ่ง เขาเริ่มท่องไปในโลกอินเตอร์เน็ตด้วยการเปิดหน้าแรกของเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับเรื่องทั่ว ๆ ไป เช่น เรื่องปัญญาประดิษฐ์ แล้วเขาสนใจเรื่อง agent และ็เปิดหน้านั้นนานเป็นพิเศษ และเนื่งจากมีเว็บมากมายที่มีคำว่า agent ปรากฏอยู่ เขาจึงอาจใช้โปรแกรมค้นหาข้อมูล (search engine) ค้นหาหน้าที่เกี่ยวกับ agent โดยใส่คำสำคัญ (keyword) ว่า "agent" เท่านี้ โปรแกรมก็จะอ้างได้ว่าผู้ใช้คนนี้สนใจหัวข้อ agent
ต่อมาผู้ใช้ได้เปิดเว็บเพจส่วนบุคคลอันหนึ่ง ซึ่งมีรายการงานเขียน เช่นหนังสือหรือ เอกสารที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารของนักเขียนคนนั้น ผู้ใช้ได้เลือกที่จะเปิดอ่านงานเขียนที่เขาสนใจ โปรแกรมเลทีเซียจะตรวจสอบเว็บนั้นว่างีงานเขียนใดที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง agent ที่ผู้ใช้สนใจหรือไม่ ถ้ามี โปรแกรมก็จะนำเสนอให้กับผู้ใช้ และสามารถอธิบายได้ว่าทำไมจึงเลือกเอกสารนั้น ๆ นำเสนอต่อผู้ใช้
Future User Interfacesจากการสั่งงานคอมพิวเตอร์การใช้ command line ซึ่งประกอบด้วยตัวอักษรและตัวเลขพิมพ์เป็นคำสั่ง ก่อนที่ผู้ใช้จะสั่งงานคอมพิวเตอร์ได้นั้น ส่วนติดต่อกับผู้ใช้ (user interface) ต้องถูกกำหนดหน้าที่มาและรูปแบบของคำสั่งที่ระบบคอมพิวเตอร์อนุญาตให้ใช้ได้ หากพิมพ์ไม่ถูกต้อง หรือใส่ข้อมูลผิดพลาดก็จะไม่ทำงานให้ กลายมาเป็นการใช้เมาส์เลือกตำหน่งต่าง ๆ ของจอภาพ การใช้จอสัมผัส การใช้แท่งควบคุมเหล่านี้อาจกลายเป็นอดีตไป เมื่อแนวโน้มการสั่งงานให้คอมพิวเตอร์ทำงานในอนาคตจะเปลี่ยนไปเป็นการสั่งงานแบบธรรมชาติที่มนุษย์ใช้ที่สุด นั่นคือใช้เสียงสั่ง ซึ่งปัจจุบันนี้มีใช้งานจริงแล้ว
The 3D Graphical User Interfaceี้ส่วนติดต่อกับผู้ใช้สามารถเป็นภาพสามมิติได้ ซึ่งทำให้ดูเสมือนจริงมากยิ่งขึ้น เช่นในการเปิดร้านขายของออนไลน์ อาจออกแบบร้านเป็นสามมิติด้วยเทคโนโลยี VRML ผู้ซื้อสามารถท่องซื้อของในร้านอย่างเสมือนจริงและสามารถพูดคุยทักทายกับผู้ซื้ออื่น ๆ หมุนดูสินค้าได้อย่างละเอียดทุกมุมก่อนตัดสินใจซื้อ เป็นต้น

Machine Translationโปรแกรมแปลภาษามีแนวโน้มจะแปลแต่ละภาษาไปหากันและกันให้ได้มากที่สุด โดยวิธีที่ใช้คือ interlingua นั่นคือสร้างภาษากลางที่เป็นศูนย์กลางขึ้นมาหนึ่งภาษา ให้ทุกภาษาสามารถแปลไปกลับกับภาษากลางนี้ได้ โดยภาษากลางนี้มีการแทนข้อมูลที่เป็นความหมายที่เป็นกลาง ไม่ขึ้นต่อกับรูปแบบไวยากร์หรือการแปลของภาษาใด
ปัจจุบันมีเว็บไซต์ที่ให้บริการแปลภาษา 6 ภาษาจากแต่ละภาษาไปหากันได้คือ www.google.com แต่สำหรับภาษาไทย ยังต้องการนักวิจัยระบบแปลภาษาไทยให้มีความถูกต้อง และมีแนวโน้มที่จะพัฒนาให้แปลได้หลายภาษาขึ้นอีก


ปัญญาประดิษฐ์


AI คืออะไร?

AI : Artificial Intelligence หรือปัญญาประดิษฐ์เป็นศาสตร์แขนงหนึ่งของวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ที่เกี่ยวข้องกับวิธีการทำให้คอมพิวเตอร์มีความสามารถคล้ายมนุษย์หรือเลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์ โดยเฉพาะความสามารถในการคิดเองได้ หรือมีปัญญานั่นเอง ปัญญานี้มนุษย์เป็นผู้สร้างให้คอมพิวเตอร์ จึงเรียกว่าปัญญาประดิษฐ์ มุมมองต่อ AI ที่แต่ละคนมีอาจไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่า เราต้องการความฉลาดโดย คำนึงถึงพฤติกรรมที่มีต่อสิ่งแวดล้อมหรือคำนึงการคิดได้ของผลผลิต AI ดังนั้นจึงมีคำนิยาม AI ตามความสามารถที่มนุษย์ต้องการให้มันแบ่งได้ 4 กลุ่ม ดังนี้
Acting Humanly : การกระทำคล้ายมนุษย์ เช่น - สื่อสารกับมนุษย์ได้ด้วยภาษาที่มนุษย์ใช้ เช่น ภาษาอังกฤษ เป็นการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (natural language processing) อย่างหนึ่ง เช่น เพื่อน ๆ ใช้เสียงสั่งให้คอมพิวเตอร์พิมพ์เอกสารให้ - มีประสาทรับสัมผัสคล้ายมนุษย์ เช่นคอมพิวเตอร์วิทัศน์ (computer vision) คอมพิวเตอร์มองเห็น รับภาพได้โดยใช้อุปกรณ์รับสัญญาณภาพ (sensor) - หุ่นยนต์ช่วยงานต่าง ๆ เช่น ดูดฝุ่น เคลื่อนย้ายสิ่งของ - machine learning หรือคอมพิวเตอร์เกิดการเรียนรู้ได้ โดยสามาถตรวจจับรูปแบบการเกิดของเหตุการณ์ใด ๆ แล้วปรับตัวสู่สิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไปได้
Thinking Humanly : การคิดคล้ายมนุษย์ ก่อนที่จะทำให้เครื่องคิดอย่างมนุษย์ได้ ต้องรู้ก่อนว่ามนุษย์มีกระบวนการคิดอย่างไร ซึ่งการวิเคราะห์ลักษณะการคิดของมนุษย์เป็นศาสตร์ด้าน cognitive science เช่น ศึกษาโครงสร้างสามมิติของเซลล์สมอง การแลกเปลี่ยนประจุไฟฟ้าระหว่างเซลล์สมอง วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงทางเคมีไฟฟ้าในร่างกายระหว่างการคิด ซึ่งจนถึงปัจจุบันเราก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่า มนุษย์เรา คิดได้อย่างไร
Thinking rationally : คิดอย่างมีเหตุผล หรือคิดถูกต้อง โดยใช้หลักตรรกศาสตร์ในการคิดหาคำตอบอย่างมีเหตุผล เช่น ระบบผู้เชี่ยวชาญ
Acting rationally : กระทำอย่างมีเหตุผล เช่น agent (agent เป็นโปรแกรมที่มีความสามารถในการกระทำ หรือเป็นตัวแทนในระบบอัตโนมัติต่าง ๆ ) สามารถกระทำอย่างมีเหตุผลคือ agent ที่กระทำการเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ เช่น agent ในระบบขับรถอัตโนมัติที่มีเป้าหมายว่าต้องไปถึงเป้าหมายในระยะทางที่สั้นที่สุด ต้องเลือกเส้นทางที่ไปยังเป้าหมายที่สั้นที่สุดที่เป็นไปได้จึงจะเรียกได้ว่า agent กระทำอย่างมีเหตุผล อีกตัวอย่างเช่น agent ในเกมหมากรุกมีเป้าหมายว่าต้องเอาชนะคู่ต่อสู้ ต้องเลือกเดินหมากที่จะทำให้คู่ต่อสู้แพ้ให้ได้ เป็นต้น

ยุคของคอมพิวเตอร์

ยุคของคอมพิวเตอร์
compute แปลว่า คำนวณ นับ หากจะเล่าถึงประวัติการคำนวณก็ต้องเริ่มต้นตั้งแต่มนุษย์รู้จักการนับ กำหนดจำนวณ 0 ขึ้น และกว่า 3000 ปีมาแล้ว ที่มีเครื่องคิดเลขของจีนโบราณที่ช่วยให้มนุษย์คำนวณได้รวดเร็วและแม่นยำก็คือลูกคิด (abacus) เครื่องทอผ้าของ Jacquard loom (1805) และเครื่องวิเคราะห์
analytical engine (1834) ของ Charles Babbage จากนั้นประมาณปลายทตวรรษที่ 1960 ก็มีเครื่องคิดเลขแบบเครื่องกลใช้กันอย่างกว้างขวางทั้งสำหรับพ่อค้า นักวิทยาศาสตร์และวิศวกร และมีการสร้างคอมพิวเตอร์แบบแอนะล็อก (analog computer) ต่อจากนั้นจึงมีการพัฒนาคอมพิวเตอร์แบบดิจิทัลขึ้น ซึ่งทำงานได้รวดเร็ว และเชื่อถือได้กว่าคอมพิวเตอร์แบบแอนะล็อก จึงทำเป็นที่รู้จักและใช้กันอย่างแพร่หลายอย่างรวดเร็ว


ช่วงการพัฒนาฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์แบบดิจิทัล สามารถแบ่งได้เป็น 6 ยุค ดังนี้ครับ

ยุคแห่งเครื่องจักร The Mechanical Era (ปี ค.ศ. 1623-1945)

์ยุคแรก First Generation Electronic Computers (ปี ค.ศ. 1937-1953)

ยุคที่ 2 Second Generation (ปี ค.ศ. 1954-1962)

ยุคที่ 3 Third Generation (ปี ค.ศ. 1963-1972)

ยุคที่ 4 Fourth Generation (ปี ค.ศ. 1972-1984)

ยุคที่ 5 Fifth Generation (ปี ค.ศ. 1984-1990)

ยุคที่ 6 Sixth Generation (ปี ค.ศ. 1990-)

ประวัติของซอฟต์แวร์

"คอมพิวเตอร์ทำงานได้เพราะมีซอฟต์แวร์เซึ่งเป็นชุดของคำสั่ง สั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามที่เราต้องการ และมนุษย์นี่เองที่เป็นผู้สร้างชุดของคำสั่งเหล่านั้นโดยการเขียนโปรแกรม (programming)ขึ้นมา ในการเขียนโปรแกรมก็ต้องมีภาษาเฉพาะ และผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการเขียนโปรแกรมเราเรียกว่านักเขียนโปรแกรมหรือโปรแกรมเมอร์นั่นเอง
ในบทนี้จะเล่าถึงประวัติการพัฒนาซอฟต์แวร์และภาษาสำหรับเขียนโปรแกรม (programming language) สามารถคลิกที่ปี หรือผลงานในตารางด้านล่างเพื่อดูรายละเอียดในแต่ละปีครับ"




1948
ทฤษฎีการสื่อสาร (Theory of Communication)
1953
โปรแกรมช่วยให้โปรแกรมได้เร็วขึ้น speedcoding
1955
โปรแกรม Logic Theorist
1956
การประมวลผลแบบกลุ่ม (batch processing)
1956
แป้นพิมพ์
1957
ตัวแปลภาษาระดับสูงไปเป็นภาษาเครื่อง (compilers)
1957
ภาษาฟอร์แทรน (Fortran)
1959
ระบบเออร์มา (ERMA)
1960
ภาษาโคบอล COBOL
1960
ภาษาลิสพ์ LISP
1962
เกมคอมพิวเตอร์แบบโต้ตอบ
1963
โปรแกรมวาดภาพ Sketchpad
1963
รหัสแอสกี (ASCII code)
1964
ภาษาเบสิก (BASIC)
1965
ภาษาเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุซิมูลา (Simula)
1967
ภาษาโลโก้ (LOGO) สำหรับเด็ก
1968
เอกสารวิชาการ: ผลร้ายของการเขียนโปรแกรมด้วยคำสั่ง GOTO
1969
มาตรฐาน RS-232-C
1969
ระบบปฏิบัติการยูนิกส์ UNIX
1972
วิดีโอเกม
1976
ระบบปฏิบัติการ CP/M
1977
มาตรฐานการเข้ารหัสข้อมูลของ IBM
1979
โปรแกรมวิสิแคลค์ (VisiCalc)
1981
ระบบปฏิบัติการ MS-DOS
1982
โปรแกรมสเปรดชีต Lotus 1-2-3
1983
โปรแกรมประมวลผลข้อความ (word processing)
1985
โปรแกรมเพจเมคเกอร์ (PageMaker)
1985
ภาษาซี พลัส พลัส (C++ )
1987
โปรแกรมไฮเปอร์การ์ด (HyperCard)
1989
เกมซิมซิตี้ (Simcity)
1989
การมองเห็นเสมือยจริง วีอาร์ (VR- virtual reality)
1990
ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 3.0 (Windows 3.0 )

บุคคลสำคัญในวงการคอมพิวเตอร์

Atanasoff, John V.(จอห์น วี. อะทานาซอฟฟ์)
Lovelace, Ada (เอดา เลิฟเลซ)
Babbage, Charles (ชาร์ลส แบบเบจ)
Minsky, Marvin (มาร์วิน มินสกี)
Berners-Lee, Tim (ทิม เบอร์เนอร์-ลี)
Neumann, John von (จอห์น วอน นอยแมน)
Bricklin, Daniel (แดเนียล บริคลิน)
Papert, Seymour (เซย์มัวร์ ปาเปิร์ต)
Cerf, Vinton (วินตัน เซิร์ฟ)
Postel, Jonathan (โจนาธาน โพสเทล)
Cray, Seymour (เซมัวร์ เครย์)
Ritchie, Dennis (เดนนิส ริทชี)
Dijkstra, Edsger
Sinclair, Clive (ไคลฟ์ ซินแคลร์)
Gates, Bill (บิล เกตส์)
Stallman, Richard (ริชาร์ด สตอลแมน)
Hopper, Grace Murray (เกรซ มัวร์เรย์ ฮอปเปอร์)
Torvalds, Linus (ไลนัส ทอร์วัลด์ส)
Jobs, Steve (สตีฟ จ๊อบส์)
Turing, Alan Mathison (อลัน มาธิสัน ทัวริง)
Kildall, Gary (แกรี่ คิลดัลล์)
Wall, Larry (แลรี่ วอลล์)
Knuth, Donald (โดนัลด์ นุต)
Wozniak, Stephen (สตีเฟน วอซนิแอค)

ข่าวอัพเดต

เว็บบอร์ด

Google

Google

งานราชการ

แจกโค๊ดฟรี ทุกอย่าง ที่นี้

MSN

สถานีวิทยุออนไลน์

อัลบั้มรูปสาวๆน่ารัก

วีดีโอคลิป Video Clip

เพลง นิยาย Retrospect เพราะมากกก

เกมออนไลน์

หมวดต่างๆ